วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

การเรียนครั้งที่ 16 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

   สำหรับการเรียนการสอนในวันนี้ เป็นครั้งสุดท้ายของเทอมแล้ว จะเป็นการสรุปความรู้และพูดคุยแนะแนวทางข้อสอบ แต่ครูโบว์ก้ยังมีกิจกรรมให้ทำ คือ ให้นักศึกษาสรุป ความรู้ต่างที่ได้รับ ในหัวข้อ การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย โดยให้ทำเป็นรายบุคคล ไม่มีการนำเสนอ


นี่คือรูปผลการสำหรับวันนี้คะ
    โดยจะแบ่งหัวข้อย่อยออกเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่ ความรู้ที่ได้รับ ประโยชน์และการนำไปใช้ สิ่งที่ได้มากกว่าการอ่านในตำรา และความประทับใจที่มีต่อครูผู้สอนในรายวิชานี้








สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้
   ได้รับความรู้ในรายวิชาการจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัยที่ถูกต้อง ในการสรุปนั้นเราก็จะได้ฝึกกาารสรุปความรู้ รวบรวมความรู้ต่างๆที่ได้รับมา ในช่วงเวลาเรียนที่ผ่านมา ทั้งด้านการบรรยายความรู้และด้านการลงมือปฏิบัติจริง 
   วิชานี้ให้มากกว่าความรู้แค่ในตำราเรียน แต่ให้ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอนร้องเพลงต่างๆ พร้อมทั้งสอนท่าเต้น สอนให้รู้จักวิธีการประดิษฐ์สื่อการสอนต่างๆ ที่สอนจริงและให้ลงมือปฎิบัติไปพร้อมๆกัน เป็นการสอนที่เหมาะสมและได้ความรู้อย่างแท้จริง
   ดิฉันคิดว่าการสอนแบบสั่งงานกับการสอนแบบปฎิบัติ อธิบายและได้ลงมือทำจริงนั้นต่างกันมาก เพราะการที่สั่งแค่งาน ความรู้จะไม่คงทนเพราะเป็นการทำงานทั่วๆไป แต่การสอนแบบนำเสนอสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดนั้นมีค่าและประโยชน์สูงสุด

สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณคุณครูจิตนาและคุณครูโบว์ที่ได้มอบความรู้ที่มีค่าให้แก่ดิฉันเพื่อนำไปใช้ในอนาคตต่อไปได้ ขอขอบพระคุณคะ...


วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

การเรียนครั้งที่ 15 วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

  สำหรับการเรียนการสอนของสัปดาห์นี้เรียนเกี่ยวกับ เรื่อง การจัดประสบการณ์
วันนี้ครูโบว์ได้มีวีดีโอมาให้พวกเราได้ดู เรื่อง สื่อทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
       สรุปเนื้อหาได้ดังนี้
   สำหรับการสอนในระดับชั้นปฐมวัยแล้ว การสอนจะต้องมีความหลากหลายแตกต่างกันไป ในการที่จะทำหรือนำเสนอสิ่งต่างๆให้กับเด็ก จะต้องคคำนึงถึงความแตกต่างของเด็กแต่ละคนเป็นสำคัญที่สุด เพราะเด็กแต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกันและมีความสามารถต่างกัน พัฒนาการของเด็กทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ครูและผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาของเด็ก โดยที่ครูและผู้ปกครองต้องมีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา ต้องมีการติดตามพฤติกรรมและพัฒนาการต่างๆของเด็กอยู่เสมอๆ เด็กจะรับเอาสิ่งที่ได้ฟัง รวบรวมข้อมูล และจำ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะการพูดต่อไป ถ้าเด็กมีพัมนาการในด้านการฟังที่ดีพัฒนาการด้านการพูดก็จะดีตามไปด้วย และการอ่าน การเขียน ก้จะมีการพัฒนาให้ดีไปด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการพัฒนาที่เอื้อผลต่อกัน เด็กต้องฝึกอ่านเพราะเด็กจะเกิดทักษะการอ่านที่ดี และรู้ทิศทางของตัวอักษรในด้านการเขียนต่อไป ในการจะทำกิจกรรมใดๆควรให้เด็กได้มีส่วนร่วมมากที่สุด ครูควรเขียนตามที่เด็กพูดหรือบอก ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาเช่นกัน เพราะจากกาารพูดจะเป็นการต่อยอดไปสู่การเขียนได้ เด็กจะเกิดความมั่นใจในการเขียนและกล้าแสดงออกมากขึ้น เด็กแต่ละคนจะมีพัฒนาการที่ต่างกัน เรื่องความแตกต่างของเด็กแต่ละคนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และการที่จะทำอะไรนั้นครูจะต้องถามความสนใจของเด็กด้วย...
   มีกิจกรรมออกแบบการจัดประสบการณ์ โดยที่กลุ่มของดิฉันได้ออกแบบเกีี่ยวกับ เรื่อง กบ





   สิ่งที่ได้รับจากการทำกิจกรรมครั้งนี้ คือ ได้ความรู้ในเรื่อง สื่อทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย ได้เข้าใจความหมายของการจัดการเรียนการสอนที่ถูกต้อง และได้ฝึกออกแบบการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัย ความรู้ที่ได้ในวันนี้สามารถนำไปใช้ในการสอน การจัดกิจกรรมต่างๆให้กับเด็กปฐมวัยในอนาคตได้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อว่าที่คุณครูอย่างเราและจะเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อตัวเด็ก

   การเรียนรู้แค่ในตำราไม่ซึมซับ เข้าใจ และเกิดเป็นความทรงจำ ได้เท่าการที่เราเคยได้ลงมือปฏิบัติจริง ความรู้นั้นจะอยู่กับเราได้นานและคงทนมากกว่า ....



วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

การเรียนครั้งที่ 14 วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

วันนี้มีการเรียนเรื่องการจัดมุมต่างๆ และมีตัวอย่างมาให้ดู จากนั้นครูโบว์ให้นักศึกษาวาดมุมตามจินตนาการของแต่ละกลุ่ม โดยแบ่งเป็นกลุ่มละ 5 - 6 คน มุมของกลุ่มดิฉันคือ มุม จราจร


มุมจราจร



เมื่อแต่ละกลุ่มทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ออกไปนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน


สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ คือ การได้คิดได้จินตนาการภาพมุมในฝัน ที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้จริง อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้นออกแบบการเรียนการสอนในระดับต้นๆที่มีประโยชน์มาก การเรียนแบบนี้ดีกว่าเรียนแค่ในตำราเป็นไหนๆ เพราะความรู้บางสิ่งนั้นไม่สามารถเข้าใจได้จากการอ่าน แต่ต้องลงมือคิดและปฏิบัติจริง จึงจะเป็นความรู้ที่คงทนยิ่งกว่า

การเรียนครั้งที่ 13 วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2556

วันนี้มีบรรยายเนื้อหา


เริ่มด้วยเพลง ครอบครัวกระต่าย

พ่อกระต่าย แม่กระต่าย ลูกกะต่าย
มีบ้านอยู่ตามโพลงดินในป่า
ชอบกินๆยอดผัก ชอบนักก็ต้องยอดหญ้า
ชอบวิ่งไปมาตล๊อบๆ
พ่อกระต่าย แม่กระต่าย ลูกกะต่าย
อยู่กันอย่างสบายในป่า
เพื่อนบ้านเขาเป็นนกกา เพื่อนรักเขาเป็นตัวตุ่น
วิ่งเล่นกันชุลมุน ตล๊อบๆ

ต่อด้วยบรรยาย การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
- สร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอย่างมีความหมายและเป็นองค์ประกอบ
- เด็กได้ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะทางภาษาโดยไม่เน้นเนื้อหาทางภาษา




และได้ฝึกคัดลายมือ




ความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ คือ ได้รู้จักเพลงเพิ่มอีก 1 เพลง และได้ทราบเกี่ยวกับจัดประสบการณ์ของเด็กในแต่ละมุมโดยได้เห็นภาพจริงจากตัวอย่างที่ครูโบว์นำมาให้ดุ และได้ฝึกคัดลายมือเพื่อที่จะนำไปใช้ในอนาคตได้อย่างถูกต้อง

การเรียนครั้งที่ 12 วันที่ 30 สิหาคม พ.ศ. 2556

   วันนี้ให้ทำเกมการศึกษาโดยแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
โดยให้บอกว่าเชื่องโยงกับนักทฤษฏีคนใด พร้อมบอกวิธีการเล่น ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับ พร้อมทั้งนำเสนอหน้าชั้นเรียนด้วย
กลุ่มของดิฉันได้ทำ สื่อเกี่ยวกับ การประสมรูปภาพ เพื่อให้เกิดเป็นอีกรูปภาพที่มีความหมายใหม่







สิ่งที่ได้รับ คือ ฝึกความสามัคคีในการทำงานกลุ่ม  ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ฝึกการมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรคื ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนๆในการทำงาน และได้ฝึกความกล้าแสดงออกในการที่จะออกไปนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน

การเรียนครั้งที่ 11 วันที่ 23 สิหาคม พ.ศ. 2556

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2556
วันนี้เป็นการเรียนทฤษฏีและมีการลงมือปฏิบัติ คือการทำสื่อป็อบอัพที่สามารถตั้งได้





สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ คือ ได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฏี และได้ลงมือปฏิบัติจริงคือได้ทำสื่อป็อปอัพ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในวิชาชีพต่อไปในอนาคตได้  และเป็นการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยได้รู้ ได้สัมผัสอีกด้วย

การเรียนครั้งที่ 10 วันที่ 16 สิหาคม พ.ศ. 2556

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2556
สัปดาห์นี้มีครูคนใหม่มาสอน คือ ครูโบว์
สัปดาห์นี้ครูโบว์ได้หมอบหมายงานให้ทำกลุ่มละ 1 ชิ้น 
กลุ่มของดิฉันได้ทำหุ่นนิ้วมือ 10 ประเทศอาเซียน






สิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ก็คือ ความรู้ในการประดิษฐ์หุ่นนิ้วมือ ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ฝึกความสามัคคี และได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น